เป็นความดันโลหิตสูง ทำประกันได้ไหม?
ความดันโลหิตสูง (Hypertension) เป็นภาวะสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง และโรคไต หลายคนที่มีภาวะความดันโลหิตสูงอาจสงสัยว่าตนเองสามารถทำประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตได้หรือไม่ คำตอบคือ “ได้” แต่มีข้อพิจารณาที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำประกัน
1. ความเข้าใจเกี่ยวกับความดันโลหิตสูงและระดับความรุนแรง
ความดันโลหิตสูงสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่:
- ความดันโลหิตสูงระดับที่ 1 (Stage 1 Hypertension): ค่าความดันอยู่ระหว่าง 130-139/80-89 mmHg
- ความดันโลหิตสูงระดับที่ 2 (Stage 2 Hypertension): ค่าความดันอยู่ที่ 140/90 mmHg ขึ้นไป
- ภาวะความดันโลหิตสูงรุนแรง (Hypertensive Crisis): ค่าความดันสูงกว่า 180/120 mmHg ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
บริษัทประกันจะพิจารณารับประกันโดยอิงจากระดับความดันโลหิตและประวัติการรักษาของผู้ขอเอาประกัน หากผู้สมัครมีภาวะความดันโลหิตสูงที่ควบคุมได้และไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง โอกาสได้รับความคุ้มครองจะมีสูงขึ้น
2. การพิจารณาของบริษัทประกัน
บริษัทประกันแต่ละแห่งมีนโยบายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงเข้ารับความคุ้มครอง โดยปกติแล้วจะมีเงื่อนไขดังนี้:
- หากสามารถควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปกติด้วยยาและการดูแลสุขภาพ อาจได้รับการอนุมัติแบบมีเงื่อนไข
- บางบริษัทอาจมีระยะเวลารอคอย (Waiting Period) ก่อนที่กรมธรรม์จะเริ่มคุ้มครอง
- อาจมีการเพิ่มเบี้ยประกัน เนื่องจากถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง
- ในบางกรณี อาจมีการยกเว้นความคุ้มครองที่เกี่ยวข้องกับโรคแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง เช่น โรคหัวใจ หรือโรคไต
3. ประเภทของประกันที่เหมาะกับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
หากคุณเป็นผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงและต้องการทำประกัน มีตัวเลือกดังนี้:
- ประกันสุขภาพ: คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยหรือเกิดโรคแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง
- ประกันชีวิต: ให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต แต่บริษัทประกันอาจพิจารณาระดับความรุนแรงของโรคก่อนรับประกัน
- ประกันอุบัติเหตุ: แม้ความดันโลหิตสูงอาจไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่ออุบัติเหตุ แต่การมีประกันอุบัติเหตุช่วยให้ได้รับค่าชดเชยหากเกิดอุบัติเหตุ
- ประกันโรคร้ายแรง: หากความดันโลหิตสูงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ อาจสามารถทำประกันที่คุ้มครองโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง
4. เคล็ดลับในการสมัครประกันสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- ดูแลสุขภาพให้ดี: การควบคุมความดันโลหิตด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และทานยาตามแพทย์สั่ง จะช่วยให้ได้รับการอนุมัติประกันง่ายขึ้น
- เลือกบริษัทประกันที่เหมาะสม: เปรียบเทียบแผนประกันและเงื่อนไขของแต่ละบริษัทเพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุด
- เปิดเผยข้อมูลสุขภาพอย่างตรงไปตรงมา: การปกปิดข้อมูลอาจส่งผลให้กรมธรรม์ถูกปฏิเสธเมื่อมีการเคลม
- พิจารณาแผนที่มีการเพิ่มเบี้ยประกันเล็กน้อย: บางครั้งการจ่ายเบี้ยเพิ่มเล็กน้อยอาจทำให้ได้รับความคุ้มครองที่ดีกว่า
สรุป
ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงสามารถทำประกันสุขภาพและประกันชีวิตได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคและนโยบายของบริษัทประกัน การดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องและเลือกแผนประกันที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้รับความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด